top of page
5C2CD8DEE042A4751F545FB315BB21D615DF908E.jpeg

โปรแกรมโบท็อกลดขนาดกล้ามเนื้อกราม
ที่ Persona Clinic

ในยุคที่ความงามและความมั่นใจเป็นสิ่งสำคัญ การมีใบหน้าเรียวที่ได้รูปสวยงามตามที่ต้องการจึงเป็น
ความปรารถนาของหลายคน หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการปรับรูปหน้าคือการลดกราม
และวิธีที่ปลอดภัยและไม่ต้องผ่าตัดที่ได้รับความนิยมสูงคือการฉีดโปรแกรมโบท็อก

โปรแกรมโบท็อกคืออะไร?

โบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum toxin) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าโบท็อก เป็นสารพิษที่ผลิตจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum เมื่อใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและถูกต้องตามหลักการแพทย์จะสามารถช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดได้

กลไกการทำงานของโปรแกรมโบท็อกในการลดกราม

  1. การยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ โปรแกรมโบท็อกจะถูกฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อ masseter ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อบดเคี้ยวที่อยู่บริเวณกราม

  2. การลดขนาดของกล้ามเนื้อ เมื่อกล้ามเนื้อถูกยับยั้งการทำงาน จะค่อยๆ ลดขนาดลง ทำให้กรามดูเล็กลงและใบหน้าดูเรียวขึ้น

  3. ผลลัพธ์ การเปลี่ยนแปลงจะค่อยๆ เกิดขึ้นในช่วง 2-4 สัปดาห์หลังการฉีดเข้าไป

ใครเหมาะกับการฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกราม?

การฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับการปรับรูปหน้า แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเหมาะสมกับวิธีการนี้
มาดูกันว่าใครบ้างที่เหมาะจะทำการฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกราม
และมีข้อควรพิจารณาอะไรบ้าง?!

ผู้ที่เหมาะสมกับการฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกราม

 

1. ผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ (Hypertrophic masseter muscles)

   - มักเกิดจากการเคี้ยวอาหารแข็งบ่อยๆ หรือการนอนกัดฟัน

   - ทำให้ใบหน้าดูกว้างและเป็นสี่เหลี่ยม

 

2. ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น

   - เหมาะสำหรับคนที่รู้สึกว่าใบหน้าของตนเองดูกว้างหรือใหญ่เกินไป

   - ต้องการให้ใบหน้ามีรูปทรง V-shape

 

3. ผู้ที่มีปัญหาการนอนกัดฟัน (Bruxism)

   - ช่วยลดแรงในการบดเคี้ยวซึ่งเป็นสาเหตุของการนอนกัดฟัน

   - ช่วยบรรเทาอาการปวดกรามและป้องกันฟันสึก

 

4. ผู้ที่มีอาการปวดข้อต่อขากรรไกร (TMJ disorders)

   - ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกร

   - ลดอาการปวดและความไม่สบายจากโรค TMJ

 

5. ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป

   - โดยทั่วไปแล้วการฉีดโบท็อกไม่แนะนำสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี

   - ควรรอให้พัฒนาการของกระดูกใบหน้าสมบูรณ์ก่อน

 

6. ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง

   - ไม่มีโรคประจำตัวที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการรักษา

   - ไม่มีประวัติแพ้โปรแกรมโบท็อกหรือส่วนประกอบอื่นๆ ในผลิตภัณฑ์

ผู้ที่ไม่เหมาะกับการฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกราม

 

1. สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร

   - เพื่อความปลอดภัยของทารกในครรภ์หรือทารกที่กำลังให้นม

 

2. ผู้ที่มีโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เช่น Myasthenia gravis

   - โปรแกรมโบท็อกอาจทำให้อาการของโรคแย่ลง

 

3. ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีดยา

   - ควรรักษาการติดเชื้อให้หายก่อนทำการฉีดโปรแกรมโบท็อก

 

4. ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์โปรแกรมโบท็อก

  

5. ผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือด

   - อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำหรือเลือดออก

 

6. ผู้ที่มีความคาดหวังไม่สมเหตุสมผล

   - เช่น คาดหวังการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วหรือถาวร

รีวิวโปรแกรมโบท็อกที่ Persona Clinic

ขั้นตอนการฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกราม
จากเริ่มต้นถึงผลลัพธ์

ภาพใช้เป็นตัวอย่างเพื่อการให้ข้อมูลเท่านั้น.png

1. การปรึกษาแพทย์และวางแผนการรักษา

- การประเมินเบื้องต้น

แพทย์จะตรวจสอบลักษณะใบหน้า กล้ามเนื้อและสุขภาพโดยรวม

- การหารือเกี่ยวกับเป้าหมาย

คุณและแพทย์จะพูดคุยถึงผลลัพธ์ที่คุณต้องการ

- การวางแผนการรักษา

แพทย์จะกำหนดปริมาณโปรแกรมโบท็อกที่เหมาะสมและตำแหน่งที่จะฉีด

2. การเตรียมตัวก่อนการรักษา

- การงดยาบางชนิด

แพทย์อาจแนะนำให้งดยาบางประเภท เช่น ยาต้านการอักเสบ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ

- การทำความสะอาดผิวหน้า

ควรมาด้วยใบหน้าที่สะอาด ปราศจากเครื่องสำอาง

- การถ่ายภาพก่อนทำ

เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์หลังการรักษา

3. ขั้นตอนการฉีดโปรแกรมโบท็อก

- การทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีด

แพทย์จะทำความสะอาดผิวหนังบริเวณกรามด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ

- การทายาชา (ถ้าจำเป็น)

บางคลินิกอาจใช้ยาชาเพื่อลดความเจ็บปวด

- การฉีดโปรแกรมโบท็อก

แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กฉีดโปรแกรมโบท็อกเข้าสู่กล้ามเนื้อ masseter ทั้งสองข้าง

- การประคบเย็น

หลังฉีดเสร็จอาจมีการประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมและช้ำ

4. การดูแลหลังการรักษา

- การหลีกเลี่ยงการนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด

เป็นเวลาอย่างน้อย 4 ชั่วโมง

- การนอนหงาย

ในคืนแรกหลังการรักษา

- การหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก

เป็นเวลา 24 ชั่วโมง

- การงดแอลกอฮอล์

เป็นเวลา 24 ชั่วโมง

- การใช้ยาแก้ปวด

สามารถใช้ตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการปวด

5. การสังเกตผลลัพธ์

- ระยะเวลาเริ่มเห็นผล

โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 1-2 สัปดาห์

- ผลลัพธ์สูงสุด

มักจะเห็นชัดเจนที่สุดหลังจาก 4-6 สัปดาห์

- การถ่ายภาพหลังทำ

เพื่อเปรียบเทียบกับภาพก่อนทำ

6. การติดตามผล

- การนัดติดตามผล

แพทย์อาจนัดให้คุณกลับมาตรวจติดตามผลหลังการรักษา 2-4 สัปดาห์

7. การรักษาต่อเนื่อง

- ระยะเวลาที่ผลลัพธ์อยู่ได้

โดยทั่วไปผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน

- การรักษาซ้ำ

เพื่อรักษาผลลัพธ์ คุณอาจต้องทำการฉีดซ้ำทุก 4-6 เดือน

**ข้อควรระวัง**

- หากมีอาการผิดปกติใดๆ เช่น อาการแพ้รุนแรง ปวดมาก หรือชาบริเวณที่ฉีด ควรติดต่อแพทย์ทันที

- ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับลักษณะกล้ามเนื้อและการตอบสนองต่อโปรแกรมโบท็อก

การดูแลตัวเองหลังฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกราม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามเป็นหัตถการที่ไม่ซับซ้อนและใช้เวลาน้อย แต่การดูแลตัวเองหลังการฉีดมีความสำคัญอย่างมากต่อผลลัพธ์และความปลอดภัย ต่อไปนี้คือคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกราม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง

ทันทีหลังการฉีด

 

1. หลีกเลี่ยงการนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด

   - งดการนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดเป็นเวลาอย่างน้อย 4 ชั่วโมง

   - เพื่อป้องกันการกระจายตัวของโบท็อกซ์ไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ

 

2. รักษาท่าตรง

   - พยายามรักษาท่าตรงนั่งตรงไม่หงายและหลีกเลี่ยงการนอนราบเป็นเวลา 4 ชั่วโมงหลังการฉีด

   - ช่วยให้โปรแกรมโบท็อกกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ

 

3. ประคบเย็น

   - ใช้ถุงน้ำแข็งหรือเจลเย็นประคบบริเวณที่ฉีดเป็นระยะ

   - ช่วยลดอาการบวมและรอยช้ำ

24 ชั่วโมงแรก

 

1. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก

   - งดการออกกำลังกายที่หนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก

   - ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำและการกระจายตัวของโปรแกรมโบท็อก

 

2. งดการดื่มแอลกอฮอล์

   - แอลกอฮอล์อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ

 

3. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน อบซาวน่าหรืออบไอน้ำ

   - ความร้อนอาจทำให้เกิดอาการบวมมากขึ้น

 

4. นอนโดยยกศีรษะสูง

   - ใช้หมอนสองใบเพื่อยกศีรษะให้สูงขึ้นเล็กน้อย

   - ช่วยลดอาการบวม

1 สัปดาห์แรก

 

1. หลีกเลี่ยงการนวดหน้าหรือทรีตเมนต์ใบหน้า

   - รวมถึงการทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์ที่ใช้ความร้อน

   - เพื่อให้โปรแกรมโบท็อกทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องหลังการฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามไม่เพียงแต่ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ด้วย หากมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังการฉีด ควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาโดยตรง เพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกรณีของคุณ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกราม

การฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ก็ยังมีคำถามและข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับวิธีการนี้ ต่อไปนี้คือคำถามที่พบบ่อย จาก Persona Clinic

1. การฉีดโปแกรมโบท็อกลดกรามเจ็บไหม?

 

- โดยทั่วไปแล้วผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากใช้เข็มขนาดเล็กมากในการฉีด บางคลินิกอาจใช้ชายาเฉพาะที่เพื่อลดความเจ็บปวด อาการเจ็บมักจะหายไปภายใน

ไม่กี่นาทีหลังการฉีด

2. ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นกรามเล็กลงเมื่อไหร่?

 

- ผู้เข้ารับการรักษาอาจเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 1-2 สัปดาห์หลังการฉีด อย่างไรก็ตามผลลัพธ์สูงสุดมักจะเห็นได้ชัดเจนหลังจาก 4-6 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและปริมาณ

โปรแกรมโบท็อกที่ใช้

3. ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน?

 

- โดยทั่วไปผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน แต่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนอาจเห็นผลนานถึง 8 เดือนในขณะที่บางคนอาจต้องการการฉีดซ้ำเร็วกว่านั้น การออกกำลังกายบริเวณกรามบ่อยๆ อาจทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นลง

4. มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?

 

ผลข้างเคียงที่พบบ่อยมักเป็นเพียงชั่วคราวและไม่รุนแรง เช่น:

- รอยช้ำหรือบวมเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด

- อาการปวดหัวเล็กน้อย

- ความรู้สึกตึงบริเวณกราม

 

ผลข้างเคียงที่รุนแรงพบได้น้อยมากแต่อาจรวมถึงการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อใกล้เคียงหรือการแพ้ยา หากมีอาการผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที

5. การฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามจะทำให้ใบหน้าดูผิดธรรมชาติหรือไม่?

 

- เมื่อทำโดยแพทย์ประจำ Persona Clinic แล้วมักจะเห็นผลไม่ดูผิดธรรมชาติ เป้าหมายคือการลดขนาดของกล้ามเนื้อกรามเพื่อให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างใบหน้าทั้งหมด การฉีดในปริมาณที่เหมาะสมและตำแหน่งที่ถูกต้องจะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นหน้าเรียว สมดุลกับใบหน้า

6. การฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามจะส่งผลต่อการเคี้ยวอาหารหรือไม่?

 

- โดยทั่วไปแล้วไม่ควรส่งผลกระทบต่อการเคี้ยวอาหาร

อย่างมีนัยสำคัญ แพทย์จะฉีดโปรแกรมโบท็อกในปริมาณที่เพียงพอเพื่อลดขนาดของกล้ามเนื้อ แต่ไม่มากพอที่จะทำให้สูญเสียการทำงานของกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตามในช่วงแรกอาจรู้สึกว่าต้องใช้แรงในการเคี้ยวมากขึ้นเล็กน้อย แต่จะปรับตัวได้ในเวลาไม่นาน

7. ฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามบ่อยแค่ไหนจึงจะปลอดภัย?

 

- โดยทั่วไปแล้วการฉีดทุก 4-6 เดือนถือว่าปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามความถี่ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การตอบสนองของร่างกายต่อโปรแกรมโบท็อก ขนาดของกล้ามเนื้อกรามและผลลัพธ์ที่ต้องการ แพทย์ที่Persona clinic

จะเป็นผู้กำหนดแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล

8. สามารถฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามพร้อมกับการทำศัลยกรรมความงามอื่นๆ ได้หรือไม่?

 

- ในหลายกรณีสามารถทำได้แต่ต้องได้รับการประเมินและวางแผนอย่างรอบคอบจากแพทย์ ที่ Persona clinic บางครั้ง

การฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามอาจทำร่วมกับการฉีดโปรแกรม

ฟิลเลอร์หรือการทำทรีตเมนต์อื่นๆเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมดุลและเป็นธรรมชาติมากขึ้น อย่างไรก็ตามในบางกรณีอาจแนะนำให้ทำแยกกันเพื่อประเมินผลลัพธ์ได้ชัดเจน

9. มีข้อห้ามในการฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามหรือไม่?

 

มีข้อห้ามบางประการได้แก่:

- สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร

- ผู้ที่มีโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เช่น Myasthenia gravis

- ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์โปรแกรมโบท็อก

- ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีดยา

 

นอกจากนี้ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่างหรือใช้ยาบางชนิดอาจต้องได้รับการประเมินเพิ่มเติมก่อนการรักษา

10. หากไม่พอใจกับผลลัพธ์สามารถแก้ไขได้หรือไม่?

 

ในกรณีที่ไม่พอใจกับผลลัพธ์มีทางเลือกดังนี้ :

1. หากผลลัพธ์น้อยเกินไปสามารถฉีดเพิ่มเติมได้

2. หากผลลัพธ์มากเกินไป โดยทั่วไปต้องรอให้ฤทธิ์ของโปรแกรมโบท็อกหมดไปเอง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน

3. ในบางกรณีอาจใช้เทคนิคพิเศษเพื่อเร่งการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อ

bottom of page