โปรแกรมโบท็อกลดขนาดกล้ามเนื้อกราม
ที่ Persona Clinic
ในยุคที่ความงามและความมั่นใจเป็นสิ่งสำคัญ การมีใบหน้าเรียวที่ได้รูปสวยงามตามที่ต้องการจึงเป็น
ความปรารถนาของหลายคน หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการปรับรูปหน้าคือการลดกราม
และวิธีที่ปลอดภัยและไม่ต้องผ่าตัดที่ได้รับความนิยมสูงคือการฉีดโปรแกรมโบท็อก
โปรแกรมโบท็อกคืออะไร?
โบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum toxin) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าโบท็อก เป็นสารพิษที่ผลิตจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum เมื่อใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและถูกต้องตามหลักการแพทย์จะสามารถช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดได้
กลไกการทำงานของโปรแกรมโบท็อกในการลดกราม
-
การยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ โปรแกรมโบท็อกจะถูกฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อ masseter ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อบดเคี้ยวที่อยู่บริเวณกราม
-
การลดขนาดของกล้ามเนื้อ เมื่อกล้ามเนื้อถูกยับยั้งการทำงาน จะค่อยๆ ลดขนาดลง ทำให้กรามดูเล็กลงและใบหน้าดูเรียวขึ้น
-
ผลลัพธ์ การเปลี่ยนแปลงจะค่อยๆ เกิดขึ้นในช่วง 2-4 สัปดาห์หลังการฉีดเข้าไป
ใครเหมาะกับการฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกราม?
การฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับการปรับรูปหน้า แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเหมาะสมกับวิธีการนี้
มาดูกันว่าใครบ้างที่เหมาะจะทำการฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกราม
และมีข้อควรพิจารณาอะไรบ้าง?!
ผู้ที่เหมาะสมกับการฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกราม
1. ผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ (Hypertrophic masseter muscles)
- มักเกิดจากการเคี้ยวอาหารแข็งบ่อยๆ หรือการนอนกัดฟัน
- ทำให้ใบหน้าดูกว้างและเป็นสี่เหลี่ยม
2. ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
- เหมาะสำหรับคนที่รู้สึกว่าใบหน้าของตนเองดูกว้างหรือใหญ่เกินไป
- ต้องการให้ใบหน้ามีรูปทรง V-shape
3. ผู้ที่มีปัญหาการนอนกัดฟัน (Bruxism)
- ช่วยลดแรงในการบดเคี้ยวซึ่งเป็นสาเหตุของการนอนกัดฟัน
- ช่วยบรรเทาอาการปวดกรามและป้องกันฟันสึก
4. ผู้ที่มีอาการปวดข้อต่อขากรรไกร (TMJ disorders)
- ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกร
- ลดอาการปวดและความไม่สบายจากโรค TMJ
5. ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
- โดยทั่วไปแล้วการฉีดโบท็อกไม่แนะนำสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
- ควรรอให้พัฒนาการของกระดูกใบหน้าสมบูรณ์ก่อน
6. ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง
- ไม่มีโรคประจำตัวที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการรักษา
- ไม่มีประวัติแพ้โปรแกรมโบท็อกหรือส่วนประกอบอื่นๆ ในผลิตภัณฑ์
ผู้ที่ไม่เหมาะกับการฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกราม
1. สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร
- เพื่อความปลอดภัยของทารกในครรภ์หรือทารกที่กำลังให้นม
2. ผู้ที่มีโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เช่น Myasthenia gravis
- โปรแกรมโบท็อกอาจทำให้อาการของโรคแย่ลง
3. ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีดยา
- ควรรักษาการติดเชื้อให้หายก่อนทำการฉีดโปรแกรมโบท็อก
4. ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์โปรแกรมโบท็อก
5. ผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือด
- อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำหรือเลือดออก
6. ผู้ที่มีความคาดหวังไม่สมเหตุสมผล
- เช่น คาดหวังการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วหรือถาวร
รีวิวโปรแกรมโบท็อกที่ Persona Clinic
ขั้นตอนการฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกราม
จากเริ่มต้นถึงผลลัพธ์
1. การปรึกษาแพทย์และวางแผนการรักษา
- การประเมินเบื้องต้น
แพทย์จะตรวจสอบลักษณะใบหน้า กล้ามเนื้อและสุขภาพโดยรวม
- การหารือเกี่ยวกับเป้าหมาย
คุณและแพทย์จะพูดคุยถึงผลลัพธ์ที่คุณต้องการ
- การวางแผนการรักษา
แพทย์จะกำหนดปริมาณโปรแกรมโบท็อกที่เหมาะสมและตำแหน่งที่จะฉีด
2. การเตรียมตัวก่อนการรักษา
- การงดยาบางชนิด
แพทย์อาจแนะนำให้งดยาบางประเภท เช่น ยาต้านการอักเสบ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ
- การทำความสะอาดผิวหน้า
ควรมาด้วยใบหน้าที่สะอาด ปราศจากเครื่องสำอาง
- การถ่ายภาพก่อนทำ
เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์หลังการรักษา
3. ขั้นตอนการฉีดโปรแกรมโบท็อก
- การทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีด
แพทย์จะทำความสะอาดผิวหนังบริเวณกรามด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
- การทายาชา (ถ้าจำเป็น)
บางคลินิกอาจใช้ยาชาเพื่อลดความเจ็บปวด
- การฉีดโปรแกรมโบท็อก
แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กฉีดโปรแกรมโบท็อกเข้าสู่กล้ามเนื้อ masseter ทั้งสองข้าง
- การประคบเย็น
หลังฉีดเสร็จอาจมีการประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมและช้ำ
4. การดูแลหลังการรักษา
- การหลีกเลี่ยงการนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด
เป็นเวลาอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
- การนอนหงาย
ในคืนแรกหลังการรักษา
- การหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก
เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- การงดแอลกอฮอล์
เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- การใช้ยาแก้ปวด
สามารถใช้ตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการปวด
5. การสังเกตผลลัพธ์
- ระยะเวลาเริ่มเห็นผล
โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 1-2 สัปดาห์
- ผลลัพธ์สูงสุด
มักจะเห็นชัดเจนที่สุดหลังจาก 4-6 สัปดาห์
- การถ่ายภาพหลังทำ
เพื่อเปรียบเทียบกับภาพก่อนทำ
6. การติดตามผล
- การนัดติดตามผล
แพทย์อาจนัดให้คุณกลับมาตรวจติดตามผลหลังการรักษา 2-4 สัปดาห์
7. การรักษาต่อเนื่อง
- ระยะเวลาที่ผลลัพธ์อยู่ได้
โดยทั่วไปผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน
- การรักษาซ้ำ
เพื่อรักษาผลลัพธ์ คุณอาจต้องทำการฉีดซ้ำทุก 4-6 เดือน
**ข้อควรระวัง**
- หากมีอาการผิดปกติใดๆ เช่น อาการแพ้รุนแรง ปวดมาก หรือชาบริเวณที่ฉีด ควรติดต่อแพทย์ทันที
- ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับลักษณะกล้ามเนื้อและการตอบสนองต่อโปรแกรมโบท็อก
การดูแลตัวเองหลังฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกราม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามเป็นหัตถการที่ไม่ซับซ้อนและใช้เวลาน้อย แต่การดูแลตัวเองหลังการฉีดมีความสำคัญอย่างมากต่อผลลัพธ์และความปลอดภัย ต่อไปนี้คือคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกราม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง
ทันทีหลังการฉีด
1. หลีกเลี่ยงการนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด
- งดการนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดเป็นเวลาอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
- เพื่อป้องกันการกระจายตัวของโบท็อกซ์ไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการ
2. รักษาท่าตรง
- พยายามรักษาท่าตรงนั่งตรงไม่หงายและหลีกเลี่ยงการนอนราบเป็นเวลา 4 ชั่วโมงหลังการฉีด
- ช่วยให้โปรแกรมโบท็อกกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
3. ประคบเย็น
- ใช้ถุงน้ำแข็งหรือเจลเย็นประคบบริเวณที่ฉีดเป็นระยะ
- ช่วยลดอาการบวมและรอยช้ำ
24 ชั่วโมงแรก
1. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก
- งดการออกกำลังกายที่หนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำและการกระจายตัวของโปรแกรมโบท็อก
2. งดการดื่มแอลกอฮอล์
- แอลกอฮอล์อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ
3. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน อบซาวน่าหรืออบไอน้ำ
- ความร้อนอาจทำให้เกิดอาการบวมมากขึ้น
4. นอนโดยยกศีรษะสูง
- ใช้หมอนสองใบเพื่อยกศีรษะให้สูงขึ้นเล็กน้อย
- ช่วยลดอาการบวม
1 สัปดาห์แรก
1. หลีกเลี่ยงการนวดหน้าหรือทรีตเมนต์ใบหน้า
- รวมถึงการทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์ที่ใช้ความร้อน
- เพื่อให้โปรแกรมโบท็อกทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องหลังการฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามไม่เพียงแต่ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ด้วย หากมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังการฉีด ควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาโดยตรง เพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกรณีของคุณ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกราม
การฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ก็ยังมีคำถามและข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับวิธีการนี้ ต่อไปนี้คือคำถามที่พบบ่อย จาก Persona Clinic
1. การฉีดโปแกรมโบท็อกลดกรามเจ็บไหม?
- โดยทั่วไปแล้วผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากใช้เข็มขนาดเล็กมากในการฉีด บางคลินิกอาจใช้ชายาเฉพาะที่เพื่อลดความเจ็บปวด อาการเจ็บมักจะหายไปภายใน
ไม่กี่นาทีหลังการฉีด
2. ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นกรามเล็กลงเมื่อไหร่?
- ผู้เข้ารับการรักษาอาจเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 1-2 สัปดาห์หลังการฉีด อย่างไรก็ตามผลลัพธ์สูงสุดมักจะเห็นได้ชัดเจนหลังจาก 4-6 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและปริมาณ
โปรแกรมโบท็อกที่ใช้
3. ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน?
- โดยทั่วไปผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน แต่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนอาจเห็นผลนานถึง 8 เดือนในขณะที่บางคนอาจต้องการการฉีดซ้ำเร็วกว่านั้น การออกกำลังกายบริเวณกรามบ่อยๆ อาจทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นลง
4. มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
ผลข้างเคียงที่พบบ่อยมักเป็นเพียงชั่วคราวและไม่รุนแรง เช่น:
- รอยช้ำหรือบวมเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด
- อาการปวดหัวเล็กน้อย
- ความรู้สึกตึงบริเวณกราม
ผลข้างเคียงที่รุนแรงพบได้น้อยมากแต่อาจรวมถึงการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อใกล้เคียงหรือการแพ้ยา หากมีอาการผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
5. การฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามจะทำให้ใบหน้าดูผิดธรรมชาติหรือไม่?
- เมื่อทำโดยแพทย์ประจำ Persona Clinic แล้วมักจะเห็นผลไม่ดูผิดธรรมชาติ เป้าหมายคือการลดขนาดของกล้ามเนื้อกรามเพื่อให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างใบหน้าทั้งหมด การฉีดในปริมาณที่เหมาะสมและตำแหน่งที่ถูกต้องจะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นหน้าเรียว สมดุลกับใบหน้า
6. การฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามจะส่งผลต่อการเคี้ยวอาหารหรือไม่?
- โดยทั่วไปแล้วไม่ควรส่งผลกระทบต่อการเคี้ยวอาหาร
อย่างมีนัยสำคัญ แพทย์จะฉีดโปรแกรมโบท็อกในปริมาณที่เพียงพอเพื่อลดขนาดของกล้ามเนื้อ แต่ไม่มากพอที่จะทำให้สูญเสียการทำงานของกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตามในช่วงแรกอาจรู้สึกว่าต้องใช้แรงในการเคี้ยวมากขึ้นเล็กน้อย แต่จะปรับตัวได้ในเวลาไม่นาน
7. ฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามบ่อยแค่ไหนจึงจะปลอดภัย?
- โดยทั่วไปแล้วการฉีดทุก 4-6 เดือนถือว่าปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามความถี่ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การตอบสนองของร่างกายต่อโปรแกรมโบท็อก ขนาดของกล้ามเนื้อกรามและผลลัพธ์ที่ต้องการ แพทย์ที่Persona clinic
จะเป็นผู้กำหนดแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล
8. สามารถฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามพร้อมกับการทำศัลยกรรมความงามอื่นๆ ได้หรือไม่?
- ในหลายกรณีสามารถทำได้แต่ต้องได้รับการประเมินและวางแผนอย่างรอบคอบจากแพทย์ ที่ Persona clinic บางครั้ง
การฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามอาจทำร่วมกับการฉีดโปรแกรม
ฟิลเลอร์หรือการทำทรีตเมนต์อื่นๆเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมดุลและเป็นธรรมชาติมากขึ้น อย่างไรก็ตามในบางกรณีอาจแนะนำให้ทำแยกกันเพื่อประเมินผลลัพธ์ได้ชัดเจน
9. มีข้อห้ามในการฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามหรือไม่?
มีข้อห้ามบางประการได้แก่:
- สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เช่น Myasthenia gravis
- ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์โปรแกรมโบท็อก
- ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีดยา
นอกจากนี้ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่างหรือใช้ยาบางชนิดอาจต้องได้รับการประเมินเพิ่มเติมก่อนการรักษา
10. หากไม่พอใจกับผลลัพธ์สามารถแก้ไขได้หรือไม่?
ในกรณีที่ไม่พอใจกับผลลัพธ์มีทางเลือกดังนี้ :
1. หากผลลัพธ์น้อยเกินไปสามารถฉีดเพิ่มเติมได้
2. หากผลลัพธ์มากเกินไป โดยทั่วไปต้องรอให้ฤทธิ์ของโปรแกรมโบท็อกหมดไปเอง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน
3. ในบางกรณีอาจใช้เทคนิคพิเศษเพื่อเร่งการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อ