โปรแกรมฟิลเลอร์ขมับคืออะไร และทำไมจึงเป็นที่นิยม??
โปรแกรมฟิลเลอร์ขมับ คือการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในบริเวณขมับเพื่อเพิ่มปริมาตรและแก้ไขรูปร่างของใบหน้า สารที่ใช้มักเป็นกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid)
โปรแกรมฟิลเลอร์เป็นวิธีการที่ไม่ต้องผ่าตัด สามารถทำได้แบบผู้ป่วยนอกและใช้เวลาไม่นาน ทำเสร็จกลับบ้านได้ทันที
ทำไมจึงเป็นที่นิยม ??
1. แก้ไขปัญหาขมับบุ๋ม
เมื่ออายุมากขึ้นขมับมักจะบุ๋มลงทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย โปรแกรมฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มส่วนนี้ได้
2. ปรับรูปหน้าให้อ่อนเยาว์
การเพิ่มปริมาตรที่ขมับช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสมดุลมากขึ้น
โปรแกรมฟิลเลอร์ขมับยังช่วยพรางโหนกแก้มที่สูงให้ดูต่ำลง หน้าเรียวได้สัดส่วน ใบหน้าดูหวานละมุนขึ้น และยังช่วยยกผิวบริเวณหางตาและหางคิ้วขึ้นด้วย
รีวิวโปรแกรมฟิลเลอร์ขมับ
โปรแกรมฟิลเลอร์ขมับดีไหม? เหมาะกับใคร?
-
ผู้ที่มีขมับบุ๋มจากการสูญเสียไขมันตามวัย
-
ผู้ที่ขมับเว้า ขมับเป็นแอ่งจากโครงสร้างกระโหลกหรือกล้ามเนื้อบริเวณขมับเล็กอยู่แต่เดิม
-
ผู้ที่ขมับยุบ หรือโหนกแก้มสูงจากการลดน้ำหนัก การจัดฟัน การยุบตัวของเนื้อแก้ม
-
คนที่ขมับสองข้างไม่เท่ากัน และต้องการปรับรูปหน้าให้สมดุลกัน เพื่อให้หน้าดูเต็มยิ่งขึ้น
-
ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดเสริมขมับแต่ต้องการผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัด พักฝื้นตัวน้อย
ข้อดีและข้อควรระวังของโปรแกรมฟิลเลอร์ขมับ
ข้อดี
-
เพิ่มปริมาตรให้บริเวณขมับที่ยุบตัวหรือเว้าลง โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นเป็นเวลานาน
-
ช่วยลดความเด่นชัดของกระดูกแก้ม ส่งผลให้รูปหน้าดูนุ่มนวลและอ่อนโยนขึ้น
-
ปรับแก้ความไม่สมมาตรของใบหน้า ช่วยให้รูปหน้าดูสมส่วนมากขึ้น
-
ช่วยลดการปรากฏของริ้วรอยบางประเภท ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
-
เสริมความกระชับของผิวบริเวณขมับ ช่วยให้ใบหน้าดูสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น
ข้อควรระวังของการโปรแกรมฟิลเลอร์ขมับ
-
ผลข้างเคียงเฉพาะที่ อาจเกิดอาการบวม ช้ำ แดง หรือคัน บริเวณที่ฉีด (มักหายภายใน 1-2 สัปดาห์)
-
การติดเชื้อ แม้พบได้น้อย แต่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณที่ฉีด
-
การอุดตันของเส้นเลือด ในกรณีที่รุนแรงมาก อาจเกิดการอุดตันของเส้นเลือดซึ่งอาจส่งผลต่อการมองเห็น
-
ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ อาจเกิดความไม่สมมาตรหรือปริมาณไม่เท่ากันทั้งสองข้าง
-
ความคาดหวังสูงเกินไป บางคนอาจไม่พอใจผลลัพธ์หากมีความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผล
⭐️กระบวนการและขั้นตอนการโปรแกรมฟิลเลอร์ขมับ⭐️
-
การปรึกษาแพทย์
-
ประเมินสภาพผิวและรูปหน้าของผู้รับการรักษา
-
สอบถามประวัติสุขภาพและการแพ้ยา
-
อธิบายขั้นตอน ผลลัพธ์ที่คาดหวัง และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
-
-
การเตรียมตัวก่อนทำ
-
ทำความสะอาดใบหน้า ลบเครื่องสำอาง
-
ถ่ายภาพก่อนทำเพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์
-
-
การเตรียมพื้นที่ฉีด
-
ทายาชาเฉพาะที่ (หากจำเป็น)
-
ทำความสะอาดผิวหนังด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
-
-
การใช้โปรแกรมฟิลเลอร์
-
แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กหรือแคนนูลา นำโปรแกรมฟิลเลอร์เข้าใต้ผิวหนังบริเวณขมับ
-
ใช้ทีละน้อยและค่อยๆ ปรับแต่งจนได้รูปทรงที่ต้องการ
-
อาจใช้เทคนิคการฉีดแบบต่างๆ เช่น การฉีดเป็นจุด หรือการฉีดแบบพัดกระจาย
-
-
การนวดและปรับแต่ง
-
แพทย์จะนวดบริเวณที่ฉีดเบาๆ เพื่อกระจายโปรแกรมฟิลเลอร์ให้เข้าที่
-
ตรวจสอบความสมมาตรและปรับแต่งเพิ่มเติมหากจำเป็น
-
-
การทำความสะอาดและเย็นประคบ
-
ทำความสะอาดบริเวณที่ฉีดอีกครั้ง
-
ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมและชํ้า
-
-
การให้คำแนะนำหลังทำ
-
แนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด
-
ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น การนวดหน้าแรงๆ หรือการอาบน้ำร้อนในวันนั้น
-
แจ้งอาการผิดปกติที่ควรสังเกตและวิธีติดต่อแพทย์หากมีปัญหา
-
-
การนัดติดตามผล
-
นัดหมายเพื่อตรวจติดตามผลหลังการรักษา 1-2 สัปดาห์
-
โดยทั่วไป กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที
ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการรักษาและปริมาณโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ใช้
ผู้รับการรักษาสามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังทำ
และมักสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
โดยอาจมีอาการบวมหรือชํ้าเล็กน้อยในช่วงแรก
การดูแลตัวเองหลังเข้าโปรแกรมฟิลเลอร์ขมับ
1. วันที่ทำการฉีด
-
ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดเป็นระยะๆ ครั้งละ 10-15 นาที เพื่อลดอาการบวมและช้ำ
-
หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีด
-
นอนหงายและยกศีรษะสูงเล็กน้อยเพื่อลดอาการบวม
2. 24-48 ชั่วโมงแรก
-
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก
-
งดดื่มแอลกอฮอล์
-
หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนหรืออบซาวน่า
3. 1 สัปดาห์แรก
-
หลีกเลี่ยงการนวดหน้าหรือทำทรีตเมนต์ใบหน้าที่รุนแรง
-
ระมัดระวังการใช้เครื่องสำอางบริเวณที่ฉีด
-
หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดจัดและใช้ครีมกันแดดเมื่อต้องออกนอกบ้าน
4. การดูแลผิวทั่วไป
-
ทำความสะอาดใบหน้าอย่างอ่อนโยน
-
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตามปกติ แต่หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกรดแรงในช่วงแรก
-
ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว
5. การสังเกตอาการผิดปกติ
-
หากมีอาการบวม แดง หรือเจ็บปวดมากผิดปกติ ให้ติดต่อแพทย์ทันที
-
สังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังบริเวณที่ฉีด
6. การนัดติดตามผล
-
เข้ารับการตรวจติดตามผลตามที่แพทย์นัดหมาย
-
แจ้งแพทย์หากมีข้อกังวลหรือต้องการปรับแต่งเพิ่มเติม
คำถามที่พบบ่อย
เกี่ยวกับโปรแกรมฟิลเลอร์ขมับ
Q: โปรแกรมฟิลเลอร์ขมับเจ็บไหม?
A: ความเจ็บปวดมีน้อยถึงปานกลาง มักใช้ร่วมกับยาชาเฉพาะที่เพื่อลดความไม่เจ็บ
Q: ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?
A: โดยทั่วไปอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของโปรแกรมฟิลเลอร์และการตอบสนองของร่างกาย
Q: ฟิลเลอร์ขมับใช้ฟิลเลอร์ข้างละกี่ cc ?
A: ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในการเติมขมับ ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนและการประเมินโดยแพทย์ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2-6 cc
Q: มีความเสี่ยงอะไรบ้าง?
A: ความเสี่ยงทั่วไปรวมถึงการบวม ช้ำ และการติดเชื้อ ความเสี่ยงร้ายแรง
พบได้น้อยมาก
Q: ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานไหม?
A: ไม่นาน ส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที แต่อาจมีอาการบวมเล็กน้อย 1-2 วัน
Q: เหมาะกับทุกคนหรือไม่?
A: ไม่เสมอไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมเป็นรายบุคคล
Q: จะเห็นผลลัพธ์เมื่อไหร่?
A: เห็นผลทันทีหลังฉีด แต่ผลลัพธ์สุดท้ายจะชัดเจนหลังจากอาการบวมยุบลง ประมาณ 1-2 สัปดาห์
Q: สามารถแต่งหน้าหลังฉีดได้เลยหรือไม่?
A: ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด
Q: ต้องทำการรักษาซ้ำบ่อยแค่ไหน?
A: โดยทั่วไปแนะนำให้ทำซ้ำทุก 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
Q: มีข้อห้ามในการทำโปรแกรมฟิลเลอร์ขมับหรือไม่?
A: มี เช่น โรคภูมิแพ้รุนแรง หรือการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด
Q: โปรแกรมฟิลเลอร์ขมับต่างจากโปรแกรมโบท็อกซ์อย่างไร?
A: โปรแกรมฟิลเลอร์ใช้เพื่อเพิ่มพิ่มปริมาตรขมับ ส่วนโปรแกรมโบท็อกซ์ลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ และริ้วรอย