top of page
7B128F40C98A47F21B02268BE7DF099A97787F48.jpeg

โปรแกรมฟิลเลอร์ขมับคืออะไร และทำไมจึงเป็นที่นิยม??

โปรแกรมฟิลเลอร์ขมับ คือการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในบริเวณขมับเพื่อเพิ่มปริมาตรและแก้ไขรูปร่างของใบหน้า สารที่ใช้มักเป็นกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid)

โปรแกรมฟิลเลอร์เป็นวิธีการที่ไม่ต้องผ่าตัด สามารถทำได้แบบผู้ป่วยนอกและใช้เวลาไม่นาน ทำเสร็จกลับบ้านได้ทันที

ทำไมจึงเป็นที่นิยม ??

1. แก้ไขปัญหาขมับบุ๋ม 

เมื่ออายุมากขึ้นขมับมักจะบุ๋มลงทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย โปรแกรมฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มส่วนนี้ได้

2. ปรับรูปหน้าให้อ่อนเยาว์

การเพิ่มปริมาตรที่ขมับช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสมดุลมากขึ้น

โปรแกรมฟิลเลอร์ขมับยังช่วยพรางโหนกแก้มที่สูงให้ดูต่ำลง หน้าเรียวได้สัดส่วน ใบหน้าดูหวานละมุนขึ้น และยังช่วยยกผิวบริเวณหางตาและหางคิ้วขึ้นด้วย

รีวิวโปรแกรมฟิลเลอร์ขมับ

โปรแกรมฟิลเลอร์ขมับดีไหม? เหมาะกับใคร?

  1. ผู้ที่มีขมับบุ๋มจากการสูญเสียไขมันตามวัย

  2. ผู้ที่ขมับเว้า ขมับเป็นแอ่งจากโครงสร้างกระโหลกหรือกล้ามเนื้อบริเวณขมับเล็กอยู่แต่เดิม 

  3. ผู้ที่ขมับยุบ หรือโหนกแก้มสูงจากการลดน้ำหนัก การจัดฟัน การยุบตัวของเนื้อแก้ม  

  4. คนที่ขมับสองข้างไม่เท่ากัน และต้องการปรับรูปหน้าให้สมดุลกัน เพื่อให้หน้าดูเต็มยิ่งขึ้น 

  5. ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดเสริมขมับแต่ต้องการผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัด พักฝื้นตัวน้อย

ข้อดีและข้อควรระวังของโปรแกรมฟิลเลอร์ขมับ

ข้อดี

  • เพิ่มปริมาตรให้บริเวณขมับที่ยุบตัวหรือเว้าลง โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นเป็นเวลานาน

  • ช่วยลดความเด่นชัดของกระดูกแก้ม ส่งผลให้รูปหน้าดูนุ่มนวลและอ่อนโยนขึ้น

  • ปรับแก้ความไม่สมมาตรของใบหน้า ช่วยให้รูปหน้าดูสมส่วนมากขึ้น

  • ช่วยลดการปรากฏของริ้วรอยบางประเภท ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น

  • เสริมความกระชับของผิวบริเวณขมับ ช่วยให้ใบหน้าดูสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น

ข้อควรระวังของการโปรแกรมฟิลเลอร์ขมับ

  • ผลข้างเคียงเฉพาะที่ อาจเกิดอาการบวม ช้ำ แดง หรือคัน บริเวณที่ฉีด (มักหายภายใน 1-2 สัปดาห์)

  • การติดเชื้อ แม้พบได้น้อย แต่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณที่ฉีด

  • การอุดตันของเส้นเลือด ในกรณีที่รุนแรงมาก อาจเกิดการอุดตันของเส้นเลือดซึ่งอาจส่งผลต่อการมองเห็น

  • ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ อาจเกิดความไม่สมมาตรหรือปริมาณไม่เท่ากันทั้งสองข้าง

  • ความคาดหวังสูงเกินไป บางคนอาจไม่พอใจผลลัพธ์หากมีความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผล

⭐️กระบวนการและขั้นตอนการโปรแกรมฟิลเลอร์ขมับ⭐️

  1. การปรึกษาแพทย์

    • ประเมินสภาพผิวและรูปหน้าของผู้รับการรักษา

    • สอบถามประวัติสุขภาพและการแพ้ยา

    • อธิบายขั้นตอน ผลลัพธ์ที่คาดหวัง และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

  2. การเตรียมตัวก่อนทำ

    • ทำความสะอาดใบหน้า ลบเครื่องสำอาง

    • ถ่ายภาพก่อนทำเพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์

  3. การเตรียมพื้นที่ฉีด

    • ทายาชาเฉพาะที่ (หากจำเป็น)

    • ทำความสะอาดผิวหนังด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ

  4. การใช้โปรแกรมฟิลเลอร์

    • แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กหรือแคนนูลา นำโปรแกรมฟิลเลอร์เข้าใต้ผิวหนังบริเวณขมับ

    • ใช้ทีละน้อยและค่อยๆ ปรับแต่งจนได้รูปทรงที่ต้องการ

    • อาจใช้เทคนิคการฉีดแบบต่างๆ เช่น การฉีดเป็นจุด หรือการฉีดแบบพัดกระจาย

  5. การนวดและปรับแต่ง

    • แพทย์จะนวดบริเวณที่ฉีดเบาๆ เพื่อกระจายโปรแกรมฟิลเลอร์ให้เข้าที่

    • ตรวจสอบความสมมาตรและปรับแต่งเพิ่มเติมหากจำเป็น

  6. การทำความสะอาดและเย็นประคบ

    • ทำความสะอาดบริเวณที่ฉีดอีกครั้ง

    • ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมและชํ้า

  7. การให้คำแนะนำหลังทำ

    • แนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด

    • ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น การนวดหน้าแรงๆ หรือการอาบน้ำร้อนในวันนั้น

    • แจ้งอาการผิดปกติที่ควรสังเกตและวิธีติดต่อแพทย์หากมีปัญหา

  8. การนัดติดตามผล

    • นัดหมายเพื่อตรวจติดตามผลหลังการรักษา 1-2 สัปดาห์

โดยทั่วไป กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที

ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการรักษาและปริมาณโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ใช้

ผู้รับการรักษาสามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังทำ

และมักสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ

โดยอาจมีอาการบวมหรือชํ้าเล็กน้อยในช่วงแรก

การดูแลตัวเองหลังเข้าโปรแกรมฟิลเลอร์ขมับ

1. วันที่ทำการฉีด

  • ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดเป็นระยะๆ ครั้งละ 10-15 นาที เพื่อลดอาการบวมและช้ำ

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีด

  • นอนหงายและยกศีรษะสูงเล็กน้อยเพื่อลดอาการบวม

2. 24-48 ชั่วโมงแรก

  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก

  • งดดื่มแอลกอฮอล์

  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนหรืออบซาวน่า

3. 1 สัปดาห์แรก

  • หลีกเลี่ยงการนวดหน้าหรือทำทรีตเมนต์ใบหน้าที่รุนแรง

  • ระมัดระวังการใช้เครื่องสำอางบริเวณที่ฉีด

  • หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดจัดและใช้ครีมกันแดดเมื่อต้องออกนอกบ้าน

4. การดูแลผิวทั่วไป

  • ทำความสะอาดใบหน้าอย่างอ่อนโยน

  • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตามปกติ แต่หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกรดแรงในช่วงแรก

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว

5. การสังเกตอาการผิดปกติ

  • หากมีอาการบวม แดง หรือเจ็บปวดมากผิดปกติ ให้ติดต่อแพทย์ทันที

  • สังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังบริเวณที่ฉีด

6. การนัดติดตามผล

  • เข้ารับการตรวจติดตามผลตามที่แพทย์นัดหมาย

  • แจ้งแพทย์หากมีข้อกังวลหรือต้องการปรับแต่งเพิ่มเติม

F1FE85AA3D81A6BDC3139C6BDCBB359CBFEF2E00.jpeg

คำถามที่พบบ่อย
เกี่ยวกับโปรแกรมฟิลเลอร์ขมับ

Q: โปรแกรมฟิลเลอร์ขมับเจ็บไหม?

A: ความเจ็บปวดมีน้อยถึงปานกลาง มักใช้ร่วมกับยาชาเฉพาะที่เพื่อลดความไม่เจ็บ
 

Q: ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?

A: โดยทั่วไปอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของโปรแกรมฟิลเลอร์และการตอบสนองของร่างกาย

 

Q: ฟิลเลอร์ขมับใช้ฟิลเลอร์ข้างละกี่ cc ?

A: ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในการเติมขมับ ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนและการประเมินโดยแพทย์ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2-6 cc  

 

Q: มีความเสี่ยงอะไรบ้าง?

A: ความเสี่ยงทั่วไปรวมถึงการบวม ช้ำ และการติดเชื้อ ความเสี่ยงร้ายแรง

พบได้น้อยมาก
 

Q: ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานไหม?

A: ไม่นาน ส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที แต่อาจมีอาการบวมเล็กน้อย 1-2 วัน


Q: เหมาะกับทุกคนหรือไม่?
A: ไม่เสมอไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมเป็นรายบุคคล

 

Q: จะเห็นผลลัพธ์เมื่อไหร่?
A: เห็นผลทันทีหลังฉีด แต่ผลลัพธ์สุดท้ายจะชัดเจนหลังจากอาการบวมยุบลง ประมาณ 1-2 สัปดาห์


Q: สามารถแต่งหน้าหลังฉีดได้เลยหรือไม่?
A: ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด

 

Q: ต้องทำการรักษาซ้ำบ่อยแค่ไหน?
A: โดยทั่วไปแนะนำให้ทำซ้ำทุก 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

 

Q: มีข้อห้ามในการทำโปรแกรมฟิลเลอร์ขมับหรือไม่?

A: มี เช่น โรคภูมิแพ้รุนแรง หรือการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด


Q: โปรแกรมฟิลเลอร์ขมับต่างจากโปรแกรมโบท็อกซ์อย่างไร?

A: โปรแกรมฟิลเลอร์ใช้เพื่อเพิ่มพิ่มปริมาตรขมับ ส่วนโปรแกรมโบท็อกซ์ลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ  และริ้วรอย

bottom of page