top of page
9B34ABB5E2D09A105E07CC7145878A9BB5F94B6A.jpeg

โปรแกรมฟิลเลอร์ร่องแก้ม คืออะไร
ฉีดแล้วร่องแก้มจะหายไหม?

1. ร่องแก้มคืออะไร?

ร่องแก้มป็นร่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติบนใบหน้า วิ่งจากข้างจมูกลงมาถึงมุมปาก

ร่องนี้มักจะชัดเจนขึ้นเมื่อเรายิ้มหรือหัวเราะ

 

2. ทำไมจึงต้องฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์?

   - การชะลอวัย: เมื่ออายุมากขึ้น ร่องแก้มมักจะลึกและชัดเจนขึ้น ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย

   - เพิ่มความอ่อนเยาว์: การลดความลึกของร่องสามารถทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น

   - สร้างความมั่นใจ: บางคนรู้สึกว่าร่องแก้มที่ชัดเจนทำให้พวกเขาดูเหนื่อยล้าหรือไม่สดชื่น

   - แก้ไขความไม่สมมาตร: ในบางกรณีร่องแก้มอาจลึกไม่เท่ากันทั้งสองข้าง การฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์สามารถช่วยปรับให้สมดุลได้

 

 

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ควรผ่านการปรึกษากับแพทย์

เพื่อประเมินความเหมาะสมและความปลอดภัยสำหรับแต่ละบุคคล

ประโยชน์ของการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ร่องแก้ม

1. ลดเลือนริ้วรอย

   - ช่วยเติมเต็มร่องลึกให้ตื้นขึ้น ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้น

   - ลดความชัดเจนของรอยย่นรอบปากและแก้ม

 

2. ฟื้นฟูความอ่อนเยาว์

   - ทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัยลง โดยไม่ต้องผ่าตัด

   - สร้างรูปลักษณ์ที่สดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น

 

3. เพิ่มความมั่นใจ

   - ช่วยให้ผู้รับการรักษารู้สึกดีขึ้นเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของตนเอง

   - อาจส่งผลดีต่อการเข้าสังคมและการทำงาน

 

4. ปรับรูปหน้าให้สมดุล

   - แก้ไขความไม่สมมาตรของใบหน้า

   - สร้างโครงหน้าที่ดูสมดุลมากขึ้น

 

5. ผลลัพธ์รวดเร็ว

   - ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว

 

7. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

   - โปรแกรมฟิลเลอร์บางชนิดมีสารช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง

   - ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวในระยะยาว

 

8. ลดการใช้เครื่องสำอาง

   - ผิวที่เรียบเนียนขึ้นอาจช่วยลดความจำเป็นในการใช้เครื่องสำอางปกปิด

   - ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการแต่งหน้า

 

9. เสริมการรักษาอื่นๆ

   - สามารถใช้ร่วมกับการรักษาความงามอื่นๆ เช่น โปรแกรมโบท็อกซ์เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

 

10. ไม่รบกวนการแสดงออกทางสีหน้า

    - เมื่อทำโดยแพทย์ประจำ PERSONA CLINIC จะไม่ส่งผลกระทบต่อการแสดงออกทางสีหน้าตามธรรมชาติ

 รีวิวโปรแกรมฟิลเลอร์ร่องแก้ม

โปรแกรมฟิลเลอร์ร่องแก้มดีไหม
เหมาะกับใคร

ฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะสำหรับใคร

  1. ผู้ที่มีร่องน้ำหมากลึกชัดเจน ทำให้ดูแก่กว่าวัย

  2. คนที่ต้องการเพิ่มความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด

  3. ผู้ที่มีความไม่สมมาตรของร่องน้ำหมากทั้งสองข้าง

  4. คนที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็วและฟื้นตัวเร็ว

  5. ผู้ที่ต้องการวิธีแก้ไขชั่วคราว ไม่ถาวร

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม

  1. อายุ: เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่เริ่มเห็นร่องน้ำหมากชัดเจน

  2. สภาพผิว: เหมาะกับผู้ที่มีผิวยืดหยุ่นดี ไม่หย่อนคล้อยมากเกินไป

  3. ความคาดหวัง: เหมาะสำหรับผู้ที่มีความคาดหวังสมเหตุสมผล เข้าใจข้อจำกัดของการรักษา

โปรแกรมฟิลเลอร์ร่องแก้ม ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมีหลายประการ ดังนี้

 

1. ผลลัพธ์หลังทำ สังเกตุเห็นได้

- เติมเต็มร่องน้ำหมากได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ใบหน้าดูสดชื่น อิ่มเอิบ และดูอ่อนเยาว์ขึ้น หลังการรักษา

2. ทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัด

- แก้ไขปัญหาร่องน้ำหมากลึกได้โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ไม่ต้องกังวลเรื่องการพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังรับการรักษา

3. ยกกระชับ ปรับโครงหน้า

- นอกจากเติมเต็มร่องน้ำหมาก ยังช่วยพยุงผิวบริเวณแก้มและมุมปาก ลดความหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูกระชับและมีมิติมากขึ้น

4. เสริมความมั่นใจ สร้างรอยยิ้มสดใส

- ช่วยลดมุมปากที่ดูหย่อนคล้อยหรือคว่ำลง ทำให้ใบหน้าดูสดใส มีชีวิตชีวา และเพิ่มความมั่นใจในการยิ้ม

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมีหลายประการ ดังนี้

  1. ผลชั่วคราว: ต้องทำซ้ำเป็นระยะเพื่อรักษาผลลัพธ์

  2. ความเสี่ยงจากการรักษา: อาจเกิดรอยฟกช้ำ บวม หรือติดเชื้อ

  3. ผลข้างเคียง: อาจเกิดอาการแพ้ หรือเกิดก้อนใต้ผิวหนัง

  4. ความเสี่ยงจากการอุดตันหลอดเลือด: แม้พบได้น้อยแต่อาจเกิดขึ้นได้

  5. อาจเกิดการติดเชื้อ: หากไม่ทำในสภาพแวดล้อมที่สะอาดเพียงพอ

  6. อาจเกิดการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์: แม้พบได้น้อย แต่อาจทำให้เกิดความไม่สมมาตร

ก่อนฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ร่องแก้ม
เตรียมตัวอย่างไรบ้าง

1. ปรึกษาแพทย์

   - นัดหมายเพื่อประเมินสภาพผิวและความเหมาะสมในการรักษา

   - แจ้งประวัติการแพ้ยาและโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบ

 

2. หลีกเลี่ยงยาและอาหารเสริมบางชนิด

   - งดยาต้านการอักเสบ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน 1-2 สัปดาห์ก่อนการรักษา

   - หลีกเลี่ยงอาหารเสริมที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา

 

3. งดแอลกอฮอล์

   - ควรงดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนการรักษา เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ

 

4. ทำความสะอาดผิวหน้า

   - ล้างหน้าให้สะอาด ไม่ควรแต่งหน้าในวันที่มารับการรักษา

   - หากมีการติดเชื้อบริเวณผิวหน้า ควรรักษาให้หายก่อน

 

5.ถ้าต้องทำหัตถการบนใบหน้า เช่น นวดหน้า โปรแกรมเลเซอร์  สามารถทำวันเดียวกันได้แต่ควรทำหัตถการอื่นให้เรียบร้อยก่อนเริ่มฉีดโปรแรกมฟิลเลอร์ 

หลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์แก้ม

ดูแลยังไง⁉️

1. ประคบเย็น

   - ใช้ถุงน้ำแข็งหรือผ้าเย็นประคบบริเวณที่ฉีด 10-15 นาทีทุก 1-2 ชั่วโมงในวันแรก

   - ช่วยลดอาการบวมและรอยช้ำ

 

2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีด

   - งดการนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 1-2 วัน

   - ป้องกันการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์

 

3. นอนศีรษะสูง

   - นอนหนุนหมอนสูงในคืนแรกหลังการรักษา

   - ช่วยลดอาการบวมบริเวณใบหน้า

 

4. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก

   - งดการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก 24-48 ชั่วโมง

   - ลดความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำหรือบวม

 

5. งดแอลกอฮอล์และสารกระตุ้น

   - หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน 24-48 ชั่วโมง

   - ลดความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำและบวม

 

6. ดูแลผิวอย่างอ่อนโยน

   - ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นและคลีนเซอร์อ่อนๆ

   - ทาครีมบำรุงและครีมกันแดดตามปกติ แต่อย่าขัดถูแรงๆ

 

7. หลีกเลี่ยงความร้อนสูง

   - งดอาบน้ำร้อน ซาวน่า หรืออบไอน้ำ 1-2 วัน

   - ป้องกันการขยายตัวของหลอดเลือดซึ่งอาจทำให้เกิดรอยช้ำ

 

8. ใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง

   - หากแพทย์จ่ายยาแก้ปวดหรือยาต้านการอักเสบ ให้ใช้ตามคำแนะนำ

 

9. สังเกตอาการผิดปกติ

   - หากมีอาการบวม ปวด หรือแดงผิดปกติ ให้ติดต่อแพทย์ทันที

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ
การฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์แก้ม

1. โปรแกรมฟิลเลอร์ร่องน้ำหมากอยู่ได้นานแค่ไหน?

   - โดยทั่วไปอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของโปรแกรมฟิลเลอร์และลักษณะผิวของแต่ละบุคคล

 

2. การฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์เจ็บมากไหม?

   - มักไม่เจ็บมาก เนื่องจากมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ อาจรู้สึกไม่สบายเล็กน้อยระหว่างการฉีด

 

3. จะเห็นผลลัพธ์เมื่อไหร่?

   - สามารถสังเกตุเห็นได้หลังการฉีด แต่อาจมีอาการบวมเล็กน้อย ผลลัพธ์สุดท้ายจะเห็นชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์

 

4. มีความเสี่ยงอะไรบ้าง?

   - ความเสี่ยงมีน้อย อาจพบรอยช้ำ บวม หรือแดงเล็กน้อย ซึ่งหายได้เอง ความเสี่ยงร้ายแรงพบได้น้อยมาก

 

5. ต้องพักฟื้นนานไหม?

   - ไม่ต้องพักฟื้นนาน สามารถกลับไปทำงานได้ทันที แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก 24-48 ชั่วโมง

 

6. มีทางเลือกอื่นนอกจากการฉีดฟิลเลอร์หรือไม่?

    - มีทางเลือกอื่น เช่น การใช้ครีมบำรุง การทำโปรแกรมเลเซอร์ หรือการผ่าตัดยกกระชับใบหน้า ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคล

bottom of page