โปรแกรมฟิลเลอร์คาง
โปรแกรมฟิลเลอร์คาง (Chin Filler) เป็นหนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยมมาก
ในคนที่มีปัญหาคางสั้น คางบุ๋ม หรือเนื้อคางไม่เท่ากันเพราะสามารถช่วยปรับรูปหน้าส่วนล่าง
ให้มีสัดส่วนที่สมดุล ทำให้ใบหน้าดูเรียวสวยและมีมิติมากขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
ไม่ต้องพักฟื้น ใช้ระยะเวลาทำไม่นาน หลังทำเสร็จสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
โปรแกรมฟิลเลอร์คาง PERSONA CLINIC
-
เป็นสารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณคาง
-
มักทำจากกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid)
กลไกการทำงาน
-
เมื่อฉีดเข้าไป โปรแกรมฟิลเลอร์จะเพิ่มปริมาตรให้กับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง
-
สารนี้จะดูดซับน้ำ ทำให้เกิดความชุ่มชื้นและเพิ่มความเต่งตึง
-
ผลลัพธ์คือการปรับรูปร่างคางให้เด่นชัดขึ้น หรือยืดคางให้ยาวขึ้น
ประโยชน์ของการโปรแกรมฟิลเลอร์คาง
-
ปรับสมดุลของใบหน้า
-
เสริมคางให้ยื่นออกมา ช่วยสร้างสมดุลกับจมูกและหน้าผาก
-
ช่วยให้รูปหน้าดูสมมาตรมากขึ้น
-
-
เพิ่มความชัดเจนของเส้นกราม
-
สร้างเส้นกรามที่คมชัด ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ
-
ช่วยกำหนดขอบเขตระหว่างใบหน้าและลำคอให้ชัดเจนขึ้น
-
-
แก้ไขปัญหาคางสั้นหรือคางเล็ก
-
เหมาะสำหรับผู้ที่มีคางสั้นหรือถอยร่นโดยกำเนิด
-
ช่วยยืดคางให้ยาวขึ้น ทำให้ใบหน้าดูสมส่วน
-
-
ลดเลือนริ้วรอย
-
ช่วยลดรอยย่นบริเวณคางและรอบปาก
-
ทำให้ผิวบริเวณคางดูเต่งตึงขึ้น
-
-
แก้ไขปัญหาโครงสร้างใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
-
เป็นทางเลือกที่ไม่รุกรานสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการศัลยกรรม
-
ใช้เวลารักษาและฟื้นตัวน้อยกว่าการผ่าตัด
-
-
ปรับแต่งได้ตามต้องการ
-
สามารถเพิ่มปริมาณทีละน้อยได้ จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่พอใจ
-
ในกรณีที่ใช้โปรแกรมฟิลเลอร์แท้แบบย่อยสลายได้ สามารถย่อยสลายและปรับเปลี่ยนทรงคางได้ในอนาคต
-
ใครเหมาะสมที่จะทำการโปรแกรมฟิลเลอร์คาง
-
ผู้ที่มีคางสั้นหรือถอยร่น
-
บุคคลที่รู้สึกว่าคางของตนเองสั้นเกินไปหรือถอยร่น
-
ผู้ที่ต้องการเพิ่มความยาวหรือปริมาตรให้กับคาง
-
-
ผู้ที่ต้องการปรับสมดุลใบหน้า
-
คนที่รู้สึกว่าสัดส่วนใบหน้าไม่สมดุล เช่น จมูกดูใหญ่เกินไปเมื่อเทียบกับคาง
-
-
ผู้ที่มีริ้วรอยบริเวณคางและรอบปาก
-
ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยบริเวณนี้โดยไม่ต้องผ่าตัด
-
-
ผู้ที่ต้องการเส้นกรามที่ชัดเจน
-
บุคคลที่ต้องการเพิ่มความคมชัดให้กับเส้นกรามและรูปคาง
-
-
ผู้ที่มีอายุมากขึ้นและต้องการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์
-
คนที่สังเกตเห็นการหย่อนคล้อยของผิวบริเวณคางและใต้คาง
-
-
ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด
-
คนที่ต้องการปรับปรุงรูปร่างคางแต่ไม่พร้อมหรือไม่ต้องการผ่าตัด
-
-
ผู้ที่ต้องการทดลองก่อนทำศัลยกรรม
-
บุคคลที่กำลังพิจารณาการทำศัลยกรรมคางแต่ต้องการเห็นผลลัพธ์ก่อน
-
-
ผู้ที่มีความคาดหวังที่สมเหตุสมผล
-
บุคคลที่เข้าใจข้อจำกัดและผลลัพธ์ที่เป็นไปได้จากการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์
-
-
ผู้ที่ไม่แพ้ส่วนประกอบในโปรแกรมฟิลเลอร์
-
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ไม่มีประวัติแพ้กรดไฮยาลูโรนิก
-
รีวิวโปรแกรมฟิลเลอร์คาง
การฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์คางมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
และข้อดีและข้อเสียมีอะไรบ้างเรามาดูกันค่าา
ข้อดีของโปรแกรมฟิลเลอร์คาง
-
ไม่ต้องผ่าตัด
-
ฟื้นตัวเร็ว สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที
-
-
ผลลัพธ์รวดเร็ว
-
เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังการรักษา
-
ไม่ต้องรอระยะเวลาฟื้นตัวนาน
-
-
ปรับแต่งได้
-
สามารถควบคุมปริมาณและรูปร่างได้ละเอียด
-
ข้อเสียของโปรแกรมฟิลเลอร์คาง
-
ผลลัพธ์ชั่วคราว
-
ต้องทำซ้ำเป็นระยะ เพื่อรักษาผลลัพธ์ (ทุก 6-18 เดือน โดยเฉลี่ย)
-
-
ข้อจำกัดในการแก้ไขปัญหา
-
ไม่สามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างกระดูกได้เหมือนการผ่าตัด
-
อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่
-
-
ผลข้างเคียง
-
อาจเกิดรอยช้ำ บวม หรือแดงชั่วคราว
-
ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือการแพ้ (แม้จะพบได้น้อย)
-
-
ความเสี่ยงจากการฉีดผิดตำแหน่ง
-
หากฉีดโดยผู้ไม่มีประสบการณ์ อาจเกิดความไม่สมมาตรหรือผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์
-
ในกรณีที่รุนแรง อาจมีผลต่อหลอดเลือดหรือเส้นประสาท
-
ขั้นตอนการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์คาง
1. การปรึกษาแพทย์ก่อนการรักษา
- พูดคุยถึงเป้าหมายและความคาดหวัง
- แพทย์ประเมินโครงสร้างใบหน้าและความเหมาะสม
- อธิบายขั้นตอน ความเสี่ยง และการดูแลหลังการรักษา
2. การเตรียมตัวก่อนการรักษา
- ทำความสะอาดใบหน้า ลบเครื่องสำอาง
- อาจมีการถ่ายภาพก่อนทำเพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์
3. การทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อ
- ทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
4. การใช้ยาชาเฉพาะที่ (ถ้าจำเป็น)
- อาจใช้ครีมชาหรือฉีดยาชาเฉพาะจุด เพื่อลดความเจ็บปวด
5. การฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์
- แพทย์ใช้เข็มขนาดเล็กหรือแคนนูลาฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์เข้าใต้ผิวหนัง
- อาจฉีดหลายจุดหรือใช้เทคนิคการฉีดแบบต่อเนื่อง
- แพทย์จะค่อยๆ เพิ่มปริมาณและปรับแต่งรูปร่าง
6. การนวดและปรับแต่ง
- หลังฉีด แพทย์จะนวดบริเวณที่ฉีดเพื่อกระจายโปรแกรมฟิลเลอร์ให้สม่ำเสมอ
- อาจใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการบวม
7. การตรวจสอบผลลัพธ์
- แพทย์จะให้คุณดูกระจกเพื่อตรวจสอบความพึงพอใจ
- อาจมีการปรับแต่งเพิ่มเติมหากจำเป็น
8. การให้คำแนะนำหลังการรักษา
- แพทย์จะอธิบายวิธีการดูแลหลังการรักษา
- ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในช่วงแรก
9. การนัดติดตามผล
- อาจมีการนัดหมายเพื่อติดตามผลหลังการรักษา 1-2 สัปดาห์
ระยะเวลาโดยรวมของการทำโปรแกรมฟิลเลอร์คางมักใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการรักษาและปริมาณโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ใช้
ข้อควรระวัง
- อาจรู้สึกไม่สบายเล็กน้อยระหว่างการฉีด
- อาจมีรอยแดง บวม หรือช้ำเล็กน้อยหลังการรักษา ซึ่งมักหายไปภายใน 1-2 วัน
- ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีดอย่างรุนแรงในช่วง 1-2 วันแรก
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์คางที่แพทย์แนะนำ
-
วันที่ทำการรักษา
-
ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดเป็นระยะ ครั้งละ 10-15 นาที เพื่อลดอาการบวม
-
หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีด
-
งดการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก
-
นอนหงาย ยกศีรษะสูงเล็กน้อยเพื่อลดอาการบวม
-
-
24-48 ชั่วโมงแรก
-
หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
-
งดการแต่งหน้าบริเวณที่ฉีด
-
หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนหรือเข้าซาวน่า
-
-
1 สัปดาห์แรก
-
หลีกเลี่ยงการนวดหน้าหรือทำทรีตเมนต์ใบหน้า
-
งดการทำหัตถการอื่นๆ บริเวณใบหน้า เช่น การขัดผิว หรือเลเซอร์
-
-
การดูแลผิวทั่วไป
-
ทำความสะอาดใบหน้าอย่างอ่อนโยน
-
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
-
ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว
-
-
การสังเกตอาการผิดปกติ
-
หากมีอาการบวม แดง หรือเจ็บปวดมากผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์
-
สังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังบริเวณที่ฉีด
-
-
การติดตามผล
-
ควรไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลการรักษา
-
-
ข้อควรระวังระยะยาว
-
หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือกดทับบริเวณที่ฉีดเป็นเวลานาน
-
ระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อต้องรับการรักษาทางทันตกรรมหรือการผ่าตัดบริเวณใบหน้า
-
โดยทั่วไป อาการบวมหรือรอยช้ำเล็กน้อยมักหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์
แต่หากมีอาการผิดปกติใดๆ
ควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาทันที
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการโปรแกรมฟิลเลอร์คาง
1. การฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์คางเจ็บไหม?
- โดยทั่วไปเจ็บน้อย มีการใช้ยาชาเฉพาะที่ อาจรู้สึกไม่สบายเล็กน้อยระหว่างฉีด
2. ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?
- โดยเฉลี่ย 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของโปรแกรมฟิลเลอร์และการตอบสนองของร่างกาย
3. มีความเสี่ยงอะไรบ้าง?
- ความเสี่ยงต่ำ อาจมีรอยช้ำ บวม หรือแดงชั่วคราว ในกรณีที่พบน้อยมาก อาจเกิดการติดเชื้อหรือการอุดตันของหลอดเลือด
4. ต้องหยุดพักงานหรือไม่?
- ไม่จำเป็น สามารถกลับไปทำงานได้ทันทีหลังการรักษา
5. เห็นทรงคางเลยหลังทำเลยหรือไม่ ?
- หลังทำเสร็จจะเห็นรูปทรงคาง แต่อาจมีอาการบวมเล็กน้อยในช่วงแรก ผลลัพธ์สุดท้ายจะเห็นชัดภายใน 1-2สัปดาห์
6. มีข้อห้ามในการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์คางหรือไม่?
- มี เช่น โรคภูมิแพ้รุนแรง หรือการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด
7. ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนการรักษา?
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาต้านการอักเสบ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนการรักษา 1 สัปดาห์
8. โปรแกรมฟิลเลอร์คางสามารถแก้ไขปัญหาคางสั้นได้มากแค่ไหน?
- สามารถปรับปรุงได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจมีข้อจำกัดสำหรับการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่
9. สามารถทำกิจกรรมปกติได้เมื่อไหร่หลังการฉีด?
- สามารถทำกิจกรรมเบาๆ ได้ทันที แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักใน 24-48 ชั่วโมงแรก
10. โปรแกรมฟิลเลอร์คางเหมาะกับทุกคนหรือไม่?
- ไม่เสมอไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมเฉพาะบุคคล
11. จะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาต้องฉีดซ้ำ?
- เมื่อสังเกตเห็นว่าผลลัพธ์เริ่มจางลง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมิน
12. มีทางเลือกอื่นนอกจากโปรแกรมฟิลเลอร์คางหรือไม่?
- มี เช่น การศัลยกรรมคาง หรือการใช้โปรแกรมโบท็อกซ์ปรับรูปหน้า
13. จำเป็นต้องทำการรักษาอื่นร่วมด้วยหรือไม่?
- ไม่จำเป็น แต่บางครั้งอาจแนะนำให้ทำร่วมกับการรักษาอื่นเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เช่น การฉีดโปรแกรมโบท็อกซ์
Q: เคยฉีดฟิลเลอร์คาง ผ่าตัดเสริมคางได้ไหม
A: แม้จะเคยฉีดฟิลเลอร์คาง ก็สามารถผ่าตัดเสริมคางได้
หากฉีดฟิลเลอร์แท้ รุ่นเนื้ออ่อนนุ่ม เพียง 6-8 เดือนฟิลเลอร์ที่เติมก็จะเริ่มสลาย ส่วนฟิลเลอร์รุ่นเนื้อแน่นหรือแข็งอาจใช้เวลา 8-16 เดือนในการสลาย ถ้าต้องการให้ฟิลเลอร์สลายในทันที ก็สามารถฉีดยาสลายฟิลเลอร์ได้